เฮียโต เจ้าของธุรกิจ รับเหมา เดินสายไฟ และจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งก่อนหน้านั้นก็เปิดกิจการปกติมีเงินหลายล้าน ล่าสุดเป็นข่าวที่น่าช็อคสำหรับคนไทยไม่คิดมากเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงคิดว่ามีแต่ในละครลูกชายและลูกสะใภ้จับไปขังในห้องมืดและคอยวางยาตลอด ทางเฮียโต
หลังจากที่หนีออกมาได้นั้นก็เราเหตุการณ์ว่าตนและภรรยาถูกลูกชายและลูกสะใภ้ไปขังและห้องแห่งหนึ่งที่ไม่ได้รู้เวลาว่าเช้าหรือค่ำเป็นห้องมืดตลอดเวลาถึงเวลาก็มีคนนำอาหารมาให้กิน และน้ำดื่ม ตอนแรกๆก็ไม่ได้เอะใจอะไร
ในส่วนของอาหารข้าวเครื่องดื่มที่นำมาให้กินก็กินปกติแต่รู้สึกว่าหลังจากที่กินไปมีอาการบางอย่างเกิดขึ้นกับตนเอง
จึงคอยสังเกตข้าวที่คนได้นำมาให้พบว่าหลังจากที่ได้ทิ้งข้าววางไว้สักพักเหมือนว่ามีอาการใส่ยาอะไรสักอย่างลงไปในข้าวเพราะข้าวจากสีขาวเปลี่ยนสีเป็นสีดำทั้งเฮียโตเพื่อความอยู่รอดถึงได้กิน ข้าวที่ไม่โดนยาแต่ข้าวที่ยังมีสีขาวคงอยู่
แต่ภรรยานั้นได้กินข้าวพวกนี้ไปแล้วและอาการก็อ่อนแรงลงเรื่อยๆตอนแรกก็ถูกจับขังอยู่ด้วยกันกับภรรยา แต่หลังจากนั้นก็ถูกจับขังแยกเป็นห้องที่แคบลงมีโกงล้อมจุดหน้าต่าง เพื่อไม่ให้หนีออกไปได้ ก็มีคนมาส่งข้าวส่งน้ำปกติเหมือนเดิม ลูกชายและลูกสะใภ้ มีการวางแผนซ้อนโดยวางยาสลบให้กับเฮียโต ระยะเวลาเกือบ 2 ปี
โดยไม่เห็นเดือนเห็นตะวันทั้งหมด และตอนที่วางยาสลบเลือนลางว่าทางลูกชายได้มีการนำหมึกมาปั๊มที่มือเพื่อจะเอาสมบัติไป ที่ดินทุกอย่าง พูดเลยว่าเหมือนในละครหลังข่าวที่มีการจัดฉากต่างๆเป็นแบบนั้นทุกอย่าง เท่านั้นไม่พอ มาทราบอีกครั้งว่าภรรยาที่ถูกขังแยกกันอีกห้อง ได้เสียชีวิตลงแล้ว
จึงได้วางแผนแกล้งบ้าหรือความจำเสื่อม คุยกับลูกชายของเฮียโตเหมือนขอติดรถออกไปด้านนอกเหมือนความจำเสื่อมจำอะไรไม่ได้
ทั้งลูกชายก็คิดว่าผู้เป็นพ่อนั้นคงจำอะไรไม่ได้เพราะระยะเวลาการขังพ่อและแม่นั้นเป็นระยะเวลาค่อนข้างนาน พอหนีออกมาได้ก็ได้วิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือกับบุคคลแถวนั้นว่าถูกลูกชายและลูกสะใภ้จอมโหดจะฮุบสมบัติและฆ่าพ่อแม่วอนให้ชาวบ้านช่วยไปส่งให้ญาติพี่น้องและกลับมาช่วยภรรยาที่นอนเสียชีวิตอยู่
ซึ่งเรื่องทั้งหมดบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องจริงเฮียโตยืนยันว่าเฮียโตไม่ได้บ้าแต่แค่แกล้งเหมือนสติไม่ดี ไม่ฉะนั้นจะไม่ได้ออกมาแฉเรื่องราวแบบนี้จึงได้ไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เข้าตรวจสอบสถานที่ดังกล่าวคือบ้านของลูกสะใภ้นั่นเอง
สนับสนุนเรื่องราวโดย ufabet