เด็กชายวัย 13 ปีขโมยรถกระบะ ไปชนกับรถบรรทุก พอถูกจับอ้างว่าจะขับรถไปหาแม่

        เด็กชายวัย 13 ปีขโมยรถกระบะ ไปชน   เมื่อวันที่ 25 เดือนเมษายนพ.ศ 2554     เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจของจังหวัดเพชรบูรณ์ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่ามีเด็กผู้ชายอายุ 13 ปีได้รับบาด  จากอุบัติเหตุขับรถชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อซึ่งขณะนี้พลเมืองดีที่พาเด็กชายวัย 13 ปีคนดังกล่าวไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบึงสามพัน

      เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงที่โรงพยาบาลก็ได้มีการสอบถามเด็กชายวัย 13 ปีคนดังกล่าวเกี่ยวกับเรื่องของการขับรถกระบะไปจนเกิดอุบัติเหตุซึ่งตรงจุดที่เกิดอุบัติเหตุนั้นเป็นบริเวณแยกไฟแดงของอำเภอบึงสามพันซึ่งในขณะนั้นรถกำลังติดไฟแดงกันอยู่แล้วเด็กชายได้ขับรถกระบะมาแล้วชนท้ายรถที่จอดติดไฟแดงอยู่นั่นเอง

        สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้เด็กชายวัย 13 ปีให้การว่าเขาเดินทางมาจากกรุงเทพฯโดยเขานั้นได้ขโมยรถกระบะของพ่อของเขามาเพราะเขาต้องการที่จะขับรถมาที่จังหวัดเพชรบูรณ์เพื่อมาตามหาแม่  อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการซักถามอยู่สักพักนึงทำให้เด็กชายวัย 13 ปีนั้นให้การวกไปวนมา

  โดยไม่ยอมแจ้งอายุจริงซึ่งบางครั้งก็บอกว่าอายุ 11 ปีหรือบางครั้งก็บอกอายุ 12 ปีนอกจากนี้จากการพูดคุยผลสรุปว่าเด็กชายคนดังกล่าวนั้นไม่ได้มีการขโมยรถพ่อของตนเองมาแต่เขาเดินทางมาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ซึ่งเดินทางมาจากอำเภอหนองไผ่

           โดยเขาได้มีการขโมยรถกระบะของชาวบ้านในอำเภอดังกล่าวเพื่อขับมาโดยมีความตั้งใจว่าจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯแต่หลังจากที่ขับรถมาถึงจังหวัดสระบุรีแถวบริเวณตำบลห้วยบงปรากฏว่ารถกระบะน้ำมันหมดเขาจึงได้มีการถ่ายอุจจาระทิ้งไว้ในรถกระบะคันดังกล่าวหลังจากนั้นก็ไปขโมยรถกระบะของชาวบ้านคนอื่นที่จอดเอาไว้อยู่ริมถนน   เพื่อที่จะขับรถย้อนกลับมาที่จังหวัดเพชรบูรณ์ใหม่อีกครั้งหนึ่งแต่ก็มาประสบอุบัติเหตุตรงสี่แยกไฟแดงดังกล่าวนั้นเอง

          จากการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นพบว่าเด็กชายคนดังกล่าวนั้นเป็นเด็กที่ชอบลักขโมยรถไปตามสถานที่ต่างๆซึ่งในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถหาตัวผู้ปกครองของเด็กชายคนดังกล่าวได้และยังไม่มีใครที่มาแสดงตัวเป็นผู้ปกครองของเด็กชายคนดังกล่าวเลยโดยในขณะนี้เด็กชายจึงถูกส่งตัวไว้ที่สถานพินิจของจังหวัดเพชรบูรณ์นั้นเองซึ่งวันจันทร์จะมีการนำทีมสหวิชาชีพมาพูดคุยและสอบสวนใหม่อีกครั้งหนึ่ง

  สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะต้องทำงานหนักเพื่อหาตัวผู้ปกครองของเด็กให้มารับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะยังไงเดี๋ยวก็ต้อง ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายซึ่งครอบครัวของเด็กจะต้องรับทราบเรื่องราวดังกล่าวนี้ด้วย 

สนับสนุนโดย.    ทางเข้า ufabet